
โรคเอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome: AIDS) คือ โรคที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจากการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ โดยไวรัสเอชไอวีจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า CD4 ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายลดต่ำลง ทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่าง ๆ เช่น
- วัณโรค
- ปอดบวม
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
โรคเอดส์ติดต่อทางไหนบ้าง ?
- ทางเลือด
- จากแม่สู่ลูกในครรภ์
- การใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
โรคเอดส์สาเหตุเกิดจากอะไร ?

โรคเอดส์ (Immune deficiency syndrome: AIDS) เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี (Human immunodeficiency virus: HIV) ในร่างกาย และมีการดำเนินโรคไปแล้วเป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี เชื้อ HIV จึงพัฒนาสู่โรคเอดส์เต็มขั้น เมื่อเชื้อ HIV เข้าสู่ร่างกายจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จนทำให้ไม่มีภูมิต้านทานเพียงพอในการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคภายนอกที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดโรคเฉียบพลัน โรคแทรกซ้อน หรือโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่มีความรุนแรง และยากแก้การรักษา
อาการของโรคเอดส์
ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ที่มีการดำเนินโรคมาจนถึงระยะที่ 3 หรือ 10 ปีโดยประมาณหลังติดเชื้อ HIV หรือระยะโรคเอดส์เต็มขั้นแล้วเท่านั้น จึงจะปรากฏสัญญาณและอาการของโรคเอดส์ โดยส่วนมาก อาการของโรคเอดส์คือการเกิดขึ้นของโรคแทรกซ้อน หรือโรคฉวยโอกาสอื่น ๆ อันเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไข้เรื้อรัง วัณโรค โรคปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ท้องเสียเรื้อรัง ร่างกายอ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีผื่นคันตามตัว ผู้ที่เป็นโรคเอดส์เต็มขั้นส่วนใหญ่ มักมีอายุได้เพียง 2-3 ปี แล้วจึงเสียชีวิต
การรักษาโรคเอดส์
แพทย์จะให้ ยาต้านไวรัสในกลุ่ม ARV (Antiretroviral drugs) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เพื่อต่อสู้ และช่วยกันยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส HIV ยาจะออกฤทธิ์ควบคุมไม่ให้ไวรัสมีการแพร่กระจายและพัฒนาไปสู่การเจ็บป่วยในขั้นที่รุนแรงอย่างเอดส์ พร้อมกับช่วยฟื้นฟูและชะลอความเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยให้ผู้ติดเชื้อมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นปกติให้มากที่สุด
โรคเอดส์ป้องกันได้อย่างไร ?

- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
- รับประทานยา PrEP
- รับประทานยา PEP
- ตรวจเลือด หรือตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องที่นี่
ขอบคุณข้อมูล : medparkhospital
โรคเอดส์ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ยาที่ช่วยในการชะลอการพัฒนาโรค คือ ยาต้านเอชไอวี หรือยาต้านรีโทรไวรัส (Antiretrovirals: ARVs) ยาจะออกฤทธิ์ควบคุมไม่ให้ไวรัสมีการแพร่กระจายและพัฒนาไปสู่การเจ็บป่วยในขั้นที่รุนแรงอย่างเอดส์